Self Control Theory หรือ ทฤษฎีการควบคุมตนเอง เสนอโดย Michael Gottfredson และ Travis Hirschi ในหนังสือ A General Theory of Crime (1990) เป็นทฤษฎีทางอาชญาวิทยาที่อธิบายเกี่ยวกับการขาดการควบคุมตนเองของแต่ละบุคคล ซึ่งเป็นปัจจัยหลักของพฤติกรรมอาชญากร ทฤษฎีการควบคุมตนเองแสดงให้เห็นว่าบุคคลที่ได้รับการเลี้ยงดูอย่างไม่มีประสิทธิภาพก่อนอายุสิบขวบจะพัฒนาการควบคุมตนเองได้น้อยกว่าบุคคลที่อายุใกล้เคียงกัน ซึ่งได้รับการเลี้ยงดูมาด้วยการเลี้ยงดูที่ดีกว่า การวิจัยยังพบว่าการควบคุมตนเองในระดับต่ำมีความสัมพันธ์กับพฤติกรรมอาชญากรและเป็นคนที่มีนิสัยหุนหันพลันแล่น ส่วนผู้ที่พัฒนาการควบคุมตนเองในระดับสูงในวัยเด็กจะมีโอกาสน้อยที่จะถูกกระทำผิดในฐานะวัยรุ่นและมีโอกาสประสบความสำเร็จมากขึ้น
การควบคุมตนเอง หมายถึง ความสามารถในการละทิ้งความสุขในระยะสั้นซึ่งมีผลเสียบางประการและความสามารถในการดำเนินการเพื่อผลประโยชน์ระยะยาว ซึ่งเกี่ยวข้องกับแนวคิดเช่นการควบคุมตนเองและแรงกระตุ้นในทางจิตวิทยา บุคคลที่ขาดการควบคุมตนเองจะกระทำการที่ทำให้พอใจในทันที เช่น การใช้สารเสพติด การสูบบุหรี่ การพนัน การขับรถยนต์เร็ว และการประพฤติผิดทางเพศอย่างไม่ระมัดระวัง บุคคลเหล่านี้จะไม่ประสบความสำเร็จในสภาพแวดล้อมทางสังคมที่ต้องการความพอใจ การวางแผน และความพยายามอย่างต่อเนื่องซึ่งต้องใช้เวลาในการประสบความสำเร็จ เช่น การแต่งงาน การจ้างงาน หรือการสำเร็จการศึกษา บุคคลที่มีการควบคุมตนเองสูงมักไม่ค่อยมีส่วนร่วมในอาชญากรรม รับความเสี่ยง หรือกระทำความผิดตลอดช่วงชีวิต และจะประสบความสำเร็จมากขึ้นในมิติทางสังคมเหล่านี้ ดังนั้น หลักการสำคัญของทฤษฎีนี้คือ ปัจเจกบุคคลที่ไม่สามารถชะลอความพอใจและทำตามเป้าหมายระยะสั้นโดยไม่ได้คิดถึงผลระยะยาวจะถือได้ว่าเป็นขาดการควบคุมตนเอง
ทฤษฎีการควบคุมตนเอง จัดอยู่ในกลุ่มทฤษฎีอาชญากรรมทั่วไป ซึ่งรวมถึงทฤษฎีการควบคุมทางสังคม (Hirschi, 1969) และทฤษฎีการป้องกัน ซึ่งแต่ละทฤษฎีสร้างขึ้นบนสมมติฐานของสำนักอาชญาวิทยา (Beccaria, 1764; Bentham, 1789) ตามทฤษฎีเหล่านี้ ผู้คนมักจะปฏิบัติตามหลักการของความมีเหตุมีผลและผลประโยชน์ส่วนตน (Gottfredson, 2011a) ทฤษฎีเหล่านี้ไม่ได้ทึกทักเอาเองว่า คนโดยเนื้อแท้แล้วมนุษย์เป็นคนชั่วหรือผิดศีลธรรมแต่ค่อนข้างจะคิดว่า ทุกคนพยายามแสวงหาผลประโยชน์ของตนเอง เพื่อเพิ่มความสุขและหลีกเลี่ยงความเจ็บปวด Gottfredson และ Hirschi ให้เหตุผลว่าอาชญากรรมและการกระทำผิดส่วนใหญ่สามารถมองได้ว่าเป็นการแสวงหาผลประโยชน์ที่ค่อนข้างทันทีและง่าย หรือความพึงพอใจในทันทีและชั่วขณะ ดังนั้น การกระทำผิดและอาชญากรรมจึงมักจะเกิดขึ้นในบุคคลที่มีการควบคุมตนเองค่อนข้างต่ำ
ทฤษฎีการควบคุมสร้างขึ้นบนสมมติฐานเหล่านี้ โดยเน้นที่กลุ่มของการควบคุม (ส่วนบุคคล สังคม กฎหมาย และสถานการณ์) ที่ยับยั้งการแสวงหาผลประโยชน์ของตนเองผ่านพฤติกรรมต่อต้านสังคม ทฤษฎีการควบคุมพยายามที่จะทำนายความแตกต่างระหว่างบุคคลและกลุ่มต่างๆ เพื่อจะบ่งชี้ว่าบุคคล กลุ่ม และสภาพแวดล้อมใดจะมีการกระทำผิดและอาชญากรรมมากที่สุด (Gottfredson & Hirschi, 1990) Gottfredson และ Hirschi โต้แย้งว่า การควบคุมส่วนบุคคลและทางสังคม (ตรงข้ามกับการควบคุมทางกฎหมาย โดยเน้นที่ทฤษฎีการยับยั้ง) เป็นปัจจัยที่สำคัญที่สุดในการก่อให้เกิดการกระทำผิดและอาชญากรรม
ตามทฤษฎีการควบคุมตนเอง ผู้คนไม่ใช่อาชญากรโดยเนื้อแท้ และไม่ได้เข้าสังคมจนกลายเป็นอาชญากร แต่มุ่งอธิบายถึงขอบเขตบุคคลที่ได้รับพัฒนาการควบคุมตนเองและปฏิบัติตามการควบคุมในสังคมซึ่งยับยั้งอาชญากรรมและการกระทำผิด ทฤษฎีการควบคุมตนเองและการควบคุมทางสังคมถือเป็นทฤษฎีการขัดเกลาทางสังคม เนื่องจากเน้นที่ปัจจัยที่สอนการยึดมั่นในบรรทัดฐานและกฎเกณฑ์ทางสังคม โดยถือว่าเด็กต้องได้รับการฝึกอบรมเพื่อให้สอดคล้องกับความคาดหวังเหล่านี้ กล่าวคือ ผู้คนได้รับการสั่งสอนในวัยเด็กแตกต่างกัน
Gottfredson และ Hirschi สันนิษฐานว่าความแตกต่างในการขัดเกลาทางสังคมในวัยเด็กทำให้เกิดความแตกต่างกัน ผู้ที่มีการควบคุมตนเองน้อยกว่า มีแนวโน้มที่จะมีส่วนร่วมในพฤติกรรมที่กระทำผิดและความผิดทางอาญามากกว่าผู้ที่มีการควบคุมตนเองสุงกว่า เมื่อเติบโตแล้ว ความแตกต่างของแต่ละบุคคลในการควบคุมตนเองค่อนข้างจะคงที่ตลอดชีวิตต่างจากวัยเด็กที่สามารถปลูกฝังได้ อย่างไรก็ตาม ไม่มีการโต้แย้งว่าการควบคุมตนเองของบุคคลนั้นไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้
การวิจัยที่สนับสนุนทฤษฎี
ข้อสรุปทั่วไปจากการวิจัยร่วมสมัย คือ การวัดการควบคุมตนเองในวัยเด็กมีความเกี่ยวข้องกับพฤติกรรมอย่างมีนัยสำคัญ ในระดับรุนแรงปานกลางกับพฤติกรรม
- จากการศึกษาของ Franken, Moffitt และคณะ (2016) พบว่า การควบคุมตนเองในวัยเด็กที่บกพร่องมีความสำคัญอย่างมาก เนื่องจากเกี่ยวข้องกับประสบการณ์ชีวิตเชิงลบมากมาย เช่น การใช้สารเสพติด การกระทำผิดทางอาญา การออกจากโรงเรียน หรือการตั้งครรภ์ในวัยรุ่นโดยไม่ได้วางแผนไว้ และมีผลเสียด้านสุขภาพและการเงินในระยะยาว เป็นต้น วัยรุ่นที่ควบคุมตนเองต่ำมีแนวโน้มที่จะคบเพื่อนที่มีพฤติกรรมเบี่ยง
- Vazsonyi และคณะ (2001) แสดงผลการควบคุมตนเองสำหรับชายและหญิง จาก 4 ประเทศและ 5 กลุ่มอายุที่แตกต่างกัน
- Baron (2003) ศึกษาการก่ออาชญากรรมในทรัพย์สิน การใช้ยาเสพติด และอาชญากรรมรุนแรงในหมู่เยาวชนไร้บ้าน
- Vazsonyi และคณะ (2001) แสดงผลการควบคุมตนเองทั่วไปสำหรับกลุ่มตัวอย่างวัยรุ่นในสหรัฐอเมริกา สวิตเซอร์แลนด์ ฮังการี และเนเธอร์แลนด์
- Moffitt และคณะ (2013) แสดงให้เห็นถึงความเกี่ยวข้องของการควบคุมตนเองในนิวซีแลนด์ การควบคุมตนเองถูกนำมาใช้เพื่ออธิบายความแตกต่างภายในประเทศญี่ปุ่น และในสเปน อีกทั้งแสดงผลการควบคุมตนเองใน 11 ประเทศ
- Perrone และคณะ (2004) อ้างถึงการศึกษา 13 เรื่องเกี่ยวกับอาชญากรรมประเภทต่างๆ และพฤติกรรมที่คล้ายคลึงกันซึ่งสนับสนุนความสัมพันธ์ระหว่างการควบคุมตนเองกับอาชญากรรม
References
- Baron, S. W. (2003). Self-control, social consequences, and criminal behavior: Street youth and the general theory of crime. Journal of Research in Crime and Delinquency, 40(4), 403–425.
- Gottfredson, M. (2006). The empirical status of control theory in criminology. In F. Cullen et al. (Eds.), Taking stock: The status of criminological theory. New Brunswick, NJ: Transaction Press.
- Gottfredson, M., & Hirschi, T. (1990). A general theory of crime. Stanford, CA: Stanford University Press.
- Beccaria, C. (1995 [1764]). On crimes and punishments. Cambridge, U.K.: Cambridge University Press.
- Bentham, J. (1789). An introduction to the principles of morals and legislation. London: Athlone Press.
- Gottfredson, M. R. (2011a). Sanctions, situations, and agency in control theories of crime. European Journal of Criminology, 8(2), 128–143.
- Franken, A., Moffitt, T. E., Steglich, C. E. G., Dijkstra, J., Harakeh, Z., & Vollenbergh, W. (2016). The role of self-control and early adolescents’ friendships in the development of externalizing behavior: The SNARE study. Journal of Youth and Adolescence, 45(9), 1800–1811.
- Vazsonyi, A., Pickering, L. E., Junger, M., & Hessing, D. (2001). An empirical test of a general theory of crime: A four-nation comparative study of self-control and the prediction of deviance. Journal of Research in Crime and Delinquency, 38(2), 91–131.
- Moffitt, T. E., Poulton, R., & Caspi, A. (2013). Lifelong impact of early self-control. American Scientist, 100(5), 352–359.
- Perrone, D., Sullivan, C. J., Pratt, T. C., & Margaryan, S. (2004). Parental efficacy, self-control, and delinquency: A test of a general theory of crime on a nationally representative sample of youth. International Journal of Offender Therapy and Comparative Criminology, 48(3), 298–312.