Edwin Sutherland (Father of American Criminology)

เอ็ดวิน ซัทเธอร์แลนด์

ประวัติและช่วงชีวิตของเอ็ดวิน ซัทเธอร์แลนด์

Edwin Hardin Sutherland (13 สิงหาคม ค.ศ.1883 – 11 ตุลาคม ค.ศ.1950) เป็นนักสังคมวิทยาชาวอเมริกัน ซึ่งถือเป็นหนึ่งในนักอาชญาวิทยาที่ทรงอิทธิพลที่สุดแห่งศตวรรษที่ 20 และเป็นที่รู้จักกันเป็นอย่างดีในเรื่องการให้ คำนิยามอาชญากรรมคอปกขาว (white-colla crime) และ ทฤษฎีการคบหาสมาคมที่แตกต่าง (differential association theory) ของอาชญากรรมและการกระทำผิด

  • ในปี ค.ศ. 1913 ได้รับปริญญาเอก ด้านสังคมวิทยาจาก University of Chicago

  • (ค.ศ. 1913–ค.ศ. 1919) หลังจากได้รับปริญญาเอกเขาอยู่ที่ William Jewell College รัฐ Missouri

  • (ฤดูร้อนปี ค.ศ. 1918) University of Kansas

  • (ค.ศ. 1919–1925) University of Illinois

  • ก่อนเดินทางมาถึง University of Minnesotaในปี ค.ศ.1925

ในปี ค.ศ. 1921 Edward C. Hayes หัวหน้าภาควิชาสังคมวิทยาแห่ง University of Illinois ได้เชิญ Sutherland เพื่อว่าจ้างให้เขียนตำราอาชญาวิทยา ในขณะนั้นคำเชิญอาจจะดูแปลกไปเล็กน้อยสำหรับ Sutherland ที่จบปริญญาดุษฎีบัณฑิต ในสาขาสังคมวิทยา เนื่องจากความเชี่ยวชาญเฉพาะด้านของเขาอยู่ในเศรษฐศาสตร์การเมือง และเขายังไม่มีชื่อเสียงมากนัก อีกทั้งยังไม่มีสิ่งพิมพ์ใดในวิชาอาชญาวิทยา การเชื้อเชิญให้ Sutherland เขียนตำราเรียนอาชญวิทยา (1924) ในวันนั้นได้เปลี่ยนชีวิตเขาไปตลอดการ ตำราอาชญาวิทยาเล่มดังกล่าวได้รับการตั้งชื่อใหม่ว่า Principles of Criminology ในปี ค.ศ.1934 และ ได้กลายเป็นตำราเรียนที่ทรงอิทธิพลที่สุดในประวัติศาสตร์ของอาชญาวิทยา

ต่อมา Sutherland มีชื่อเสียงมากขึ้นในฐานะนักอาชญาวิทยาชั้นนำของประเทศที่ University of Minnesota ซึ่งเขาทำงานตั้งแต่ปี ค.ศ.1926-1929 ในช่วงเวลานี้เขาได้จดจ่ออยู่กับสังคมวิทยาในฐานะองค์กรทางวิทยาศาสตร์ที่มีเป้าหมายเพื่อทำความเข้าใจและควบคุมปัญหาในสังคม

นอกจากนี้ ในปี ค.ศ.1932 Sutherland ยังโชคดีที่ได้พบกับ Broadway Jones นักพูดที่มีชื่อเสียงที่ Chicago สองค่อยๆ ได้ร่วมตีพิมพ์หนังสือในชื่อ The Professional Thief (1937) (ซึ่ง Jones ใช้นามแฝงว่า “Chic Conwell”) จากการศึกษาและเขียนหนังสือนี้ทำให้ Sutherland เชื่อมั่นว่า อาชญากรมืออาชีพได้เรียนรู้เทคนิคและทัศนคติที่เกี่ยวข้องกับงานของพวกเขาจากความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดกับอาชญากรมืออาชีพคนอื่นๆ

  • ในปี ค.ศ.1929 Sutherland ได้ศึกษาระบบการลงโทษของอังกฤษขณะอยู่ที่อังกฤษ

  • นอกจากนี้ระหว่างปี ค.ศ. 1929-1930 เขายังทำงานเป็นนักวิจัยกับสำนักสุขศาสตร์สังคมใน New York

  • ในปี ค.ศ.1930 เขาได้รับตำแหน่งศาสตราจารย์ด้านการวิจัยที่ University of Chicago

  • ในปี ค.ศ.1935 เขารับตำแหน่งที่ Indiana University และก่อตั้งโรงเรียนอาชญาวิทยา Bloomington ที่ Indiana University

ความสำคัญทางประวัติศาสตร์ของ Sutherland จุดประกายมาจากการการปราศรัยต่อสมาคมสังคมวิทยาอเมริกัน เรื่องThe White Collar Criminal ในสุนทรพจน์ 27 ธันวาคม ค.ศ.1939 แนวคิดเรื่องอาชญากรรมคอปกขาว ซึ่งเป็นแนวคิดที่หักล้างอคติและหลักคิกที่มีอยู่ในสังคม เนื่องจากในยุคนั้นขุนนางหรือชนชั้นที่มีอำนาจทำสิ่งใดก็ไม่มีความผิด (ดังทัศนะทางกฎหมายในสมัยโบราณว่า a king could do no wrong)

ในช่วงเวลาที่เขาอยู่ที่รัฐ Indiana เขาได้ตีพิมพ์หนังสือ 4 เล่ม

  1. Twenty Thousand Homeless Men (1936)

  2. The Professional Thief (1937)

  3. The Third edition of Principles of Criminology (1939)

  4. White Collar Crime (1949)

Sutherland ได้รับเลือกเป็นประธานสมาคมสังคมวิทยาแห่งอเมริกาในปี 1939 และเป็นประธานสมาคมวิจัยสังคมวิทยาในปี 1940 การนำเสนอแนวคิดเรื่องอาชญากรรมคอปกขาวในปี 1939 ถูกบริษัทที่ใหญ่ที่สุดของอเมริกา ขู่ว่าจะฟ้องผู้จัดพิมพ์ของ White Collar Crime เนื่องจากเนื้อหาได้กล่าวถึงการกระทำผิดของขุนนาง ต่อมาการตีพิมพ์ผลงานเรื่อง White Colla Crime ประสบความสำเร็จอย่างมากและแนวคิดของ Sutherland เกี่ยวกับอาชญากรรมปกขาว “ได้เปลี่ยนพื้นฐานของการศึกษาของอาชญากรรมไปทั่วทั้งโลก”

Sutherland เป็นผู้เขียนตำราเรียนอาชญาวิทยาซึ่งตีพิมพ์ในปี ค.ศ.1924 โดยระบุถึงหลักทฤษฎีการคบหาสมาคมที่แตกต่าง (differential association)การพัฒนารูปแบบนิสัยของอาชญากรรมเกิดขึ้นจากการคบหากับผู้ที่ก่ออาชญากรรมมากกว่ากับผู้ที่ไม่ก่ออาชญากรรม ทฤษฎีนี้ยังมีองค์ประกอบโครงสร้างที่ระบุว่าความขัดแย้ง และความไร้ระเบียบทางสังคมที่เป็นสาเหตุสำคัญของการก่ออาชญากรรม

ผลงานสำคัญของเอ็ดวิน ซัทเธอร์แลนด์

  1. ทฤษฎีการคบการสมาคมที่แตกต่าง (Differential Association Theory)

  2. ให้คำนิยามอาชญากรรมคอปกขาว White Colla Crime

Related Post
ARTICLE

ฆาตกรต่อเนื่อง (Serial Killer)

ฆาตกรต่อเนื่องมีพฤติกรรมการไล่ล่าไม่ต่างจากปลาฉลาม ปลาฉลามไม่ได้โจมตีเหยื่อโดยบังเอิญ แต่จะสะกดรอยตามเหยื่อที่ซ่อนตัวอยู่ ฉลามจะพักคอยสังเกต

Read More »
ARTICLE

Mass murder ที่เป็น Serial killer และมีรสนิยม “ฆ่ายกครัว” (Anatoly Onoprienko)

ประเทศไทยได้เริ่มรู้จัก Mass murder กันหลายคดีตั้งแต่ปี 63 ถึงปัจจุบัน นับแต่จ่าคลั่งโคราชถึงนายสิบตำรวจอุทัยสวรรค์ สิ่งที่สร้างความเสียใจให้ทุกคน

Read More »