ฆาตกรต่อเนื่อง (Serial Killer)

มัชฌิมา ร่มรุกข์

Writer

ฆาตกรต่อเนื่องมีพฤติกรรมการไล่ล่าไม่ต่างจากปลาฉลาม ปลาฉลามไม่ได้โจมตีเหยื่อโดยบังเอิญ แต่จะสะกดรอยตามเหยื่อที่ซ่อนตัวอยู่ ฉลามจะพักคอยสังเกตเหยื่อจากที่ไม่ใกล้ไม่ไกลเกินไป และออกล่าอย่างมีกลยุทธ์ เช่นเดียวกับฆาตกรต่อเนื่องที่เรียนรู้จากประสบการณ์และปรับปรุงเทคนิคการฆ่าของของตัวเองอย่างแยบยลที่สุด (Martin et al., 2009)

ตามคำจำกัดความของหน่วยปฏิบัติงาน FBI ฆาตกรต่อเนื่อง หมายถึง ผู้ที่ฆ่าคนอย่างน้อยสามคน ซึ่งอาจลงมือกระทำโดยลำพังหรือสมรู้ร่วมคิดร่วมกับผู้อื่นในช่วงเวลาหนึ่ง โดยฆาตกรต่อเนื่องจะมีช่วง “cooling-off” หรือ ช่วงลงมืออย่างใจเย็นในระหว่างการฆาตกรรม ซึ่งบ่งบอกถึงการไตร่ตรองก่อนการฆ่าแต่ละครั้ง นอกจากนี้ จากเหตุการณ์ในอดีตพบว่าฆาตกรต่อเนื่องมักทิ้งร่องรอยหรือทิ้งลายเซ็นลักษณะเฉพาะไว้บนร่างของเหยื่อหรือในที่เกิดเหตุ

Cooling-off หมายถึง เป็นช่วงเวลาระงับอารมณ์ หรือ ช่วงเวลาที่ผู้กระทำความผิดจะกลับสู่วิถีชีวิตปกติชั่วครู่ระหว่างการฆาตกรรม ก่อนที่จะกลับมาจัดการศพหรือทรมานเหยื่ออย่างใจเย็นในที่ลับของตน (Douglas et al., 2013)

ฆาตกรต่อเนื่องแตกต่างจากฆาตกรสังหารหมู่ (mass murderers) ที่ฆ่าเหยื่อหลายรายในเหตุการณ์เดียวกัน ในขณะที่ฆาตกรต่อเนื่องมักจะฆาตกรรมเหยื่อทีละคนอย่างช้า ๆ และเยือกเย็น ฆาตกรต่อเนื่องมักจะใช้อาวุธทั่วไปที่พบได้ง่ายรอบตัว เช่น มีดในการถลกหนังและแล่ชิ้นเนื้อ หรือ ใช้เชือกรัดคอ ในทางตรงกันข้าม เป้าหมายของการสังหารหมู่คือการสังหารเหยื่อให้ได้มากที่สุด รวดเร็ว และมีประสิทธิภาพในครั้งเดียว โดยใช้เทคโนโลยีระดับสูงสุดในการทำลายล้างเพื่อสร้างความเสียหายสูงสุด เช่น ปืนพก วัตถุระเบิด หรือการลอบวางเพลิง (Dietz, 1986)

9 ลักษณะเฉพาะที่พบในฆาตกรต่อเนื่อง
1. ขาดความเห็นอกเห็นใจ
ลักษณะทั่วไปอย่างหนึ่งของฆาตกรต่อเนื่องคือ การขาดความลึกซึ้งทางอารมณ์ โดยเฉพาะความเห็นอกเห็นใจผู้อื่น เนื่องจากฆาตกรต่อเนื่องมักจะการฆาตกรรมโดยไตร่ตรองไว้ล่วงหน้าโดยขาดความเห็นอกเห็นใจผู้ตายหรือครอบครัว ผลการศึกษาจำนวนหนึ่งแสดงให้เห็นว่าฆาตกรต่อเนื่องจะรับรู้ถึงความทุกข์ทรมานของเหยื่ออย่างเต็มที่ เพียงแค่บางครั้งพวกเขาไม่รู้สึกตัวระหว่างลงมือฆาตกรรม

Jeffrey Dahmer และ Frisky สุนัขตัวโปรด (Pinterest)

แต่ที่น่าสนใจคือ ฆาตกรต่อเนื่องอาจแสดงความเห็นอกเห็นใจต่อมนุษย์อีกคนหนึ่งหรือรักสัตว์เลี้ยงของพวกเขา แต่กลับไม่สนใจความเป็นความตายของเหยื่อ เช่น Dennis Nilsen, John Wayne Gacy และ Harold Shipman ต่างก็เป็นคนรักสุนัข กรณีศึกษาที่แปลกที่สุด คือ กรณีของ Jeffrey Dahmer ผู้ซึ่งฆ่าสุนัขเร่ร่อนอย่างมีความสุข แต่เขาไม่เคยทำร้าย Frisky สุนัขของเขา

2. ขาดความสำนึกผิด
การขาดการสำนึกผิดควบคู่กับการขาดความเห็นอกเห็นใจที่กล่าวมาข้างต้น ฆาตกรต่อเนื่องจะไม่ค่อยรู้สึกสำนึกผิดต่ออาชญากรรมที่ลงมือทำ ฆาตกรต่อเนื่องหลายคนคัดค้านลักษณะนี้ โดยบางคนอ้างว่าเขาได้เรียนรู้ที่จะรู้สึกสำนึกผิดหลังจากลงมือฆ่าเหยื่อไปแล้ว อย่างไรก็ตาม ข้ออ้างดังกล่าวอาจเป็นเพียงกลอุบายหลอกลวง และเนื่องจากฆาตกรต่อเนื่องบางคนมีฝีมือในการปกปิดเจตนาที่แท้จริงของตน จึงเป็นไปได้ยากที่จะรู้ว่า ฆาตกรต่อเนื่องรู้สึกสำนึกผิดจริงหรือไม่ อาจมีกรณียกเว้น เช่น Jeffrey Dahmer ที่กล่าวว่า “ฉันควรจะตายเพราะสิ่งที่ฉันได้ลงมือทำ” และ กรณี Edmund Kemper ที่ได้มอบตัวต่อตำรวจ แต่กรณีเหล่านี้อาจพบได้ยากมาก
Edmund Kemper (Wikimedia Commons)
3. หุนหันพลันแล่น
ฆาตกรต่อเนื่องที่มีความหุนหันพลันแล่น เกิดจากการที่มีการควบคุมตนเองต่ำ ฆาตกรลักษณะนี้จะฉวยโอกาสที่เหยื่อประมาทและโจมตีอย่างฉับพลัน รวดเร็ว ยกตัวอย่างเช่น Charles Albright ฆาตกรต่อเนื่องที่รวบรวมดวงตาของเหยื่อเป็นถ้วยรางวัล และ Aileen Wuornos โสเภณีที่ฆ่าลูกค้าที่มาซื้อบริการอย่างต่อเนื่อง อย่างไรก็ตาม ฆาตกรบางคนกลับไม่ได้มีความหุนหันพลันแล่นแต่กลับใจเย็นในการลงมือฆ่า พวกนี้มักจะเป็นโรคจิตเภทที่สะกดรอยตามเหยื่อเป็นเวลาหลายวันหรือหลายสัปดาห์ล่วงหน้าและวางแผนการฆ่าอย่างแยบยล ตัวอย่างเช่น The BTK Killer ใช้เวลาหลายเดือนในการเฝ้าดูเหยื่อและเรียนรู้กิจวัตรของพวกเขาก่อนที่จะลงมือฆ่า
William Heirens ทิ้งข้อความที่เขียนด้วยลิปสติกของเหยื่อบนผนังห้องหลังจากฆาตกรรม (Getty Image)
อกจากนี้ ยังมีอีกกรณีที่ฆาตกรต่อเนื่องหลายคนให้สัมภาษณ์ในทำนองเดียวกันว่า พวกเขาอยากจะหยุดฆ่าแต่ทำไม่ได้ เช่น Dennis Nilsen กล่าวว่า “เขาไม่ต้องการฆ่า แต่เขาไม่มีทางเลือกอื่น”, William Heirens เคยเขียนบนผนังห้องนอนของเหยื่อว่า “โปรดจับตัวฉัน ก่อนที่ฉันจะฆ่ามากกว่านี้ ฉันควบคุมตัวเองไม่ได้” หรืออย่าง Tommy Lynn Sells กล่าวว่า เมื่อเขาเห็นผู้หญิงคนหนึ่งเดินคนเดียวในตอนกลางคืน เขาไม่สามารถควบคุมความปรารถนาที่จะติดตามเธอได้
4. อวดเก่งและหลงตัวเอง
ฆาตกรต่อเนื่องส่วนใหญ่ชอบอวดความสำเร็จของตนเอง หลายคนมองว่าตัวเองอยู่เหนือกฎหมายและฉลาดกว่าคนอื่น เช่น BTK Killer ที่ไม่ได้แสดงความเกรงกลัวต่อศาลขณะตัดสินคดี, Jack the Ripper และ the Zodiac Killer ที่ส่งจดหมายและทิ้งข้อความท้าทายตำรวจ และกรณี Long Island Serial Killer ที่เยาะเย้ยครอบครัวของเหยื่อผ่านทางโทรศัพท์ จึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่ฆาตกรต่อเนื่องจะตั้งชื่อฉายาตัวเอง ทิ้งข้อความไว้ในที่เกิดเหตุหรือติดต่อกับสื่อโดยตรง เนื่องจากต้องการโด่งดังและเป็นตำนาน
จดหมายของ Zodiac Killer (Eric Risberg/AP)

ลักษณะที่ชอบอวดเก่งยังควบคู่ไปกับพฤติกรรมการหลงตัวเองที่สูงเกินไป ฆาตกรต่อเนื่องส่วนใหญ่หมกมุ่นอยู่กับวิธีที่สื่อ ตำรวจ และประชาชนทั่วไปรับรู้ ซึ่งเป็นเหตุผลว่าทำไมบางครั้งฆาตกรจึงพยายามควบคุมเรื่องเล่าหรือเรื่องราวของตัวเอง หลายคนไม่กลัวที่จะอวดในที่สาธารณะเกี่ยวกับอาชญากรรมที่ได้กระทำ หากเชื่อว่าจะได้รับความสนใจจากสาธารณะ ยกตัวอย่างเช่น Armin Meiwes มนุษย์กินคน ที่ฆ่าและกินผู้ชายที่เดทกันทางโลกออนไลน์ หลังจากนั้น Meiwes จะอวดเรื่องราวเกี่ยวกับการฆาตกรรมในห้องสนทนาต่าง ๆ แม้กระทั่งการโพสต์ภาพการฆาตกรรมของเขา

5. มีเสน่ห์และน่าดูงดูด
ย้อนกลับไปในปี 1978 Rodney Alcala ชายหนุ่มผู้มีเสน่ห์ผู้ชนะการออกเดท หลังจากสร้างความประทับใจให้กับสาวโสดในรายการ The Dating Game เขาเป็นคนที่ดูดี พูดจาฉะฉานและมีไหวพริบ สิ่งที่สาวโสดผู้น่าสงสารคนนี้ไม่รู้ก็คือ Rodney ฆ่าผู้หญิงมาแล้วสี่คน ความมีเสน่ห์และการดึงดูดใจเป็นของคู่กันกับการหลอกลวง ฆาตกรต่อเนื่องก็รู้ดีว่าคนที่มีเสน่ห์จะทำให้อีกฝ่ายรู้สึกสบายใจมากและอ่อนไหวเมื่ออยู่ใกล้ เช่นกรณี Ted Bundy ฆาตกรชื่อดังที่เป็นคนมีหน้าตาดีและมีการศึกษา
Rodney Alcala ฆาตกรต่อเนื่องที่สร้างความประทับใจในรายการ The Dating Game (Getty Image)
ในทำนองเดียวกัน John Wayne Gacy แม้เขาไม่ได้หน้าตาดี แต่เขาเป็นคนน่ารักและมีทักษะการเกลี้ยกล่อมให้เด็กๆ กลับมาที่บ้านพร้อมกับเขา นอกจากนี้ การมีเสน่ห์ยังทำให้พวกเขาได้รับความไว้วางใจจากเหยื่อ และล่อลวงเหยื่อง่ายขึ้น ตัวอย่างเช่น Dean Corll สังหารเด็กผู้ชายอย่างน้อย 28 คน ในช่วงต้นทศวรรษ 1970 หลังจากล่อลวงเหยื่อไปที่บ้านเพื่อทรมาน ข่มขื่น และฆ่า
6. พฤติกรรมเสพติด
การเสพติดหมายถึง การกระทำพฤติกรรมซ้ำแล้วซ้ำเล่า เป็นไปได้ว่าการฆ่าต่อเนื่องอาจเสพติดการฆ่าหรือการทรมานเหยื่อ นอกจากนี้ ยังพบว่าฆาตกรต่อเนื่องบางคนมีแนวโน้มเสพติดสุราหรือสารเสพติด เช่น Dennis Nilsen, Jeffrey Dahmer, Ted Bundy, Dean Corll และ Richard Speck ฆาตกรบางคนใช้เป็นข้ออ้างในการก่อเหตุว่าเกิดจากการขาดสติและมึนเมา
Richard Speck ฆาตกรต่อเนื่องที่เสพติดสุราอย่างหนัก (Filmdaily)
7. The Macdonald Triad
The Macdonald Triad คือพฤติกรรมเฉพาะ 3 ประการในวัยเด็ก ซึ่งบ่งชี้ว่าบุคคลอาจมีการใช้ความรุนแรงเมื่อเติบโตเป็นผู้ใหญ่ ได้แก่ การฉี่รดที่นอน การชอบจุดไฟ และการทารุณสัตว์ในวัยเด็ก นักวิชาการเปิดเผยว่า ลักษณะทั้งสามนี้แสดงถึงการขาดการควบคุมตนเองและการขาดความเห็นอกเห็นใจผู้อื่น ดังที่เราได้เห็นจากฆาตกรต่อเนื่องหลายคน เช่น Jeffrey Dahmer, Edmund Kemper, John Wayne Gacy, Ted Bundy, Albert De Salvo ที่ชอบทารุณสัตว์ในเหมือนกันในวัยเด็ก ยกตัวอย่าง กรณีของ Jeffrey Dahmer ในวัยเด็กชอบอยู่คนเดียวในป่าใกล้บ้านมากกว่าออกไปเล่นกับเด็กคนอื่น เขาชอบเอาศพหรือซากของสัตว์ตัวเล็กๆ มาละลายด้วยกรดหรือดองฟอร์มาลีนสะสมไว้ในบ้าน
8. ใช้อำนาจเพื่อสนองความต้องการทางเพศ
ฆาตกรต่อเนื่องหลายคนต้องการใช้อำนาจเหนือเหยื่อหรือแสดงอำนาจเหนือตำรวจ อาจเป็นเพราะการใช้อำนาจควบคุมทำให้ตื่นเต้นทางเพศ แม้ว่าแรงจูงใจของแต่ละบุคคลในการฆาตกรรมจะแตกต่างกันไป แต่ความปรารถนาในอำนาจเป็นสิ่งที่พบได้บ่อยที่สุดอย่างหนึ่ง ผู้กระทำความผิดเหล่านี้ชอบการฆาตกรรมเพราะมันทำให้สามารถควบคุมชีวิตและความตายได้ ซึ่งคือความพึงพอใจสูงสุด ตัวอย่างเช่น Moors Murderers ที่สังหารเหยื่อ 5 ราย โดย 4 รายถูกข่มขืนและฝังศพไว้ หลังจากที่ Moors Murderers ถูกจับกุม เขาปฏิเสธที่จะเปิดเผยสถานที่ฝังศพของเหยื่อรายสุดท้ายของเขา เพื่อเป็นการแสดงถึงอำนาจเหนือตำรวจ ครอบครัวของเหยื่อ และประชาชนทั่วไป
9. แสวงหาการสัมผัส
การแสวงหาความรู้สึก เป็นลักษณะของความต้องการได้รับการสัมผัสที่มีความแปลกใหม่ เพื่อความพึงพอใจของตน หรือ เป็นการกระทำของการมีส่วนร่วมในกิจกรรมเสี่ยงภัยเพื่อให้รู้สึกบางอย่าง ซึ่งมักพบในคนสองประเภท คือ ผู้ใช้ยาเสพติดและฆาตกรต่อเนื่อง ผู้ใช้ยาจะค่อยๆ เพิ่มระดับการใช้สารเสพติด ในทำนองเดียวกัน ฆาตกรต่อเนื่องต้องการค้นหาความรู้สึกที่รุนแรงที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ เพราะพวกเขาอาจจะรู้สึกเฉยชากับความรู้สึกที่เจอในทุกวัน เช่น ความรัก ความเสน่หา หรือความสนุกสนาน ดังนั้น มีแต่การฆาตกรรมและการล่วงละเมิดทางเพศเท่านั้นที่ทำให้ฆาตกรรู้สึกถึงสัมผัสแปลกใหม่
อย่างไรก็ตาม 9 ลักษณะเฉพาะที่กล่าวมาข้างต้น เป็นเพียงตัวอย่างลักษณะเฉพาะที่พบในของฆาตกรต่อเนื่องบางรายเท่านั้น แล้วคุณละ เคยอ่านพบลักษณะเฉพาะอื่น ๆ ของฆาตกรต่อเนื่อง แบบใดอีกบ้าง
Related Post
ARTICLE

Mass murder ที่เป็น Serial killer และมีรสนิยม “ฆ่ายกครัว” (Anatoly Onoprienko)

ประเทศไทยได้เริ่มรู้จัก Mass murder กันหลายคดีตั้งแต่ปี 63 ถึงปัจจุบัน นับแต่จ่าคลั่งโคราชถึงนายสิบตำรวจอุทัยสวรรค์ สิ่งที่สร้างความเสียใจให้ทุกคน

Read More »